18 สิงหาคม 2555

แน่ใจหรอว่าการ Capture ภาพบนหน้าจอ จะเป็นหลักฐานทาง Internet ที่เชื่อถือได้?

เห็นดราม่าหลายงานมัก Capture ภาพเป็นหลักฐาน เอาไว้เพิ่มความน่าเชื่อถือว่ามันชวนดราม่าจริงๆนะเออ คนกลุ่มนึงอาจจะหาว่าตัดต่อ แต่อีกหลายคนอาจจะเชื่อว่าเป็นของจริงก็เป็นได้

แต่รู้ไหมว่า มีวิธีสร้างเนื้อหาเท็จง่ายๆ แล้วค่อย Capture ภาพทีหลัง ไม่ต้องตัดต่อ ไม่มีสีภาพเพี้ยนๆไว้ให้จับผิดอย่างแน่นอน

วิธีเกรียนเบื้องต้น เหมาะสำหรับคนไม่ถนัดตัดต่อ ขอลองเอาตัวอย่างการโพสต์ของเพื่อนคนนึงมาโชว์ให้ดูก่อน :p

ข้อความที่ยังไม่ได้แก้ไขใดๆ เซนเซอร์ชื่อกับหน้าเพื่อนอย่างเดียว

สำหรับ Geek ก็คงพอเดาออกว่าทำยังไง เรากำลังโชว์ให้คนที่ไม่ Geek ดูว่า Capture ภาพอย่างเดียวอาจจะไม่พอ ลองมาดูกันดีกว่า


1. สำหรับ Chrome ให้กด Ctrl+Shift+I จะโผล่หน้าต่างตรงด้านล่างของ Browser แบบนี้


เอา Cursor เม้าส์วางบนโค้ดบรรทัดไหนก็จะแรเงาส่วนของเว็บไซต์ที่เกิดจากโค้ดส่วนนั้นได้ ลองเล่นดูๆ

2. ค่อยๆใช้เม้าส์ไล่โค้ดไปเรื่อยๆ บรรทัดไหนแรเงาส่วนที่เราต้องการก็คลิกมันเข้าไปเรื่อยๆ แรกๆมันจะแรเงาทั้งเพจ แล้วก็ค่อยๆแรเงาส่วนใหญ่ๆของเว็บ และก็เริ่มแรเงาตรงรายละเอียดมากขึ้น


3. แล้วก็ไล่ไปเรื่อยๆ ก็จะได้ดังภาพ แอบเหนื่อยอยู่เหมือนกัน


4. เมื่อเจอข้อความที่ต้องการแก้ไขแล้ว ก็ double click แล้วแก้เล้ยยยย


5. แก้เป็นอะไรดีน้า... แบบนี้ละกัน เสี้ยมๆ

เล่นประเด็นล้อๆกันในภาคนี่แหละ 5555


6. เมื่อแก้แล้ว ก็ลองมาดูการแสดงผลบนหน้าจริง

แก้ใหม่ ไร้รอยต่อ :p


นี่ยังแค่ระดับ Basic ถ้าเจอคนเทพๆเข้าไปแก้อะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจจะถึงขนาดสร้างคอมเม้นดราม่าปลอมๆขึ้นมาเป็นสตอรี่ชงเองตบเอง แล้วพอเราเข้าไปดูแล้วก็หาไม่เจอ (แหงสิ ไม่ได้ Hack เข้าไปโพสต์ไว้จริงๆซะเมื่อไหร่) ก็อาจจะคิดว่าเจ้าตัวลบทิ้งไปแล้วก็เป็นได้ บลาๆๆ


จึงอยากเตือนผู้เสพดราม่าทุกท่านว่าหลักฐานบนโลกออนไลน์มันเชื่อถือไม่ได้เสมอไปนะ อย่างน้อยก็วิธีการ Capture ภาพเนี่ยแหละ :p


4 สิงหาคม 2555

มา List อาชีพน่าทำสำหรับคนไทยเตรียมรับ AEC กัน

อีก 3 ปีนี้สำหรับเด็กใกล้เรียนจบ (หรือจะยังไม่จบ?) อย่างเรานี่นับว่าเร็วมาก ยังไม่เตรียมพร้อมอะไรเท่าไหร่เลย แต่พอคิดอีกที นี่เป็นโอกาสที่จะได้แข่งขันกับชาวบ้าน

ถ้าไม่มีการแข่งขัน ก็ไม่มีการพัฒนา จริงป่ะล่ะ?

โอเค มองว่า 3 ปีนี้เป็นโอกาสเตรียมพร้อมก่อน AEC ก็ได้ สำหรับมนุษย์บางคนแล้วถ้าไม่ใกล้เส้นตาย งานก็ไม่เดิน เวลา 3 ปีสำหรับผู้ใหญ่อาจจะดูสั้น แต่ลองมองกลับไปในวัยเด็กดู 3 ปีนี้มันจากเด็กแรกเกิดจนพูดได้เดินได้ จากวัยเด็กจนโตเป็นวัยรุ่น แต่ผู้ใหญ่ที่เห็นว่าสั้นและไร้ค่านั้นก็ถ่วงเวลาที่่ควรพัฒนาอะไรไปล้านแปดเพียงเพื่อเอาเวลาช่วงนั้นตวงผลประโยชน์ใส่ตัว ไม่ได้เห็นแก่อนาคตของชาติเลย

อดีตเด็กขอบ่นด้วยความชอกช้ำ

โอเคๆ สรุปก็คือ เวลา 3 ปีมันก็เยอะพอจะทำอะไรได้นะ ลองมาคิดๆกันดูไหมว่า ถ้าเกิดเปิดอาเซียนแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง


  • ต่างชาติจะเริ่มเข้ามา
    • คนไทยส่วนใหญ่ยังไงก็กากภาษาอังกฤษ ?
      • เปิดโรงเรียนสอนภาษา ?
        • อังกฤษ - ไม่ดีกว่า คู่แข่งเยอะล่ะ
        • ไทย - เปิดสอนกะเหรี่ยงราคาไม่แรง น่าจะรุ่งนะ เปิดหลายๆสาขา ย่านที่แรงงานอยู่กันเยอะๆ 
แรงงานต่างด้าวค่าแรงถูกกว่า ขยันกว่า อดทนกว่าแรงงานไทยเยอะอยู่นะ แรงงานไม่มีฝีมือเตรียมตกงานได้เลยถ้ายังเลือกงานอยู่

        • ภาษาที่สาม - ไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ แต่แนะนำภาษารัสเซีย ถ้าเปิดสอนสถานที่ท่องเที่ยวที่ต่างชาติเยอะๆอย่างภูเก็ต กระบี่ ไรเงี้ย เวิร์กแน่นอน เพราะคนรัสเซียพูดอังกฤษกันไม่ค่อยได้นะ พนักงานโรงแรมก็พูดได้แต่อังกฤษ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมี contact บ้างอะไรบ้างอะนะ
    • วิถีแห่งต่างด้าวกับคนไทยย่อมไม่เหมือนกัน
      • ร้านอาหารสำหรับต่างชาติ
        • ราคาไม่แรง - ขอเป็นแบบ real authentic ที่ไม่ใช่ authentic หรูหราราคาโรงแรม
        • ทำเลแรงงานเข้าถึงง่ายๆ - บนห้าง ในโรงแรม ไม่เอาไม่เวิร์ก รถเข็น ตึกแถว นี่แหละ แจ่ม
        • อาหารจานด่วน - เอาแบบฉบับ ลาว พม่า เวียดนาม มาเลย์ อินโด etc. (ตามถนัด) เค้ากินอะไรกัน ปรับรสชาติให้เข้ากับปากเค้า เผลอๆคนไทยเองนี่แหละจะติดใจ
      • บริการสำหรับต่างชาติอื่นๆ
        • ตอนนี้คิดไม่ออก (ฮา) แต่คิดว่ายังไง community ของต่างชาติที่อยู่ในไทยจะใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นก็คงมีอะไรแปลกๆที่เราคาดไม่ถึงโผล่ขึ้นมา อาจจะเป็นบริการแจ่มๆผ่านโลกออนไลน์ก็เป็นได้

ตอนนี้ไอเดียตัน เพราะชอบคิดได้ตอนที่ไม่น่าจะคิดได้เลย ถ้าเรานั่งปวดหัวอยู่หน้าคอมแล้วพิมพ์ออกมาตอนนี้ก็คงจะไม่ใช่ไอเดียที่ดีนัก รวมหัวกันคิดน่าจะเวิร์กกว่าเนอะ

ปล.นี่พิมพ์เอามันเฉยๆนะ 555