10 สิงหาคม 2553

ปล่อยชีวิต...

(คะแนนดิสครีททำตูจิตตก... Entry นี้เพ้อเจ้อมาก แนะนำว่าอย่าอ่าน)


ผ่านมา 8 ปี ชีวิตของฉันเต็มไปด้วยข้ออ้าง...

ข้ออ้างที่จะหายใจทิ้งไปวันๆ
ข้ออ้างที่อยากจะหนีไปให้ไกลๆ
ข้ออ้างที่ไม่เข้าใจว่าจะตั้งใจทำอะไรให้สุดความสามารถไปทำไม


คนอย่างฉัน มาถึงจุดนี้ได้ ก็เหนือความคาดหมายจะแย่อยู่แล้ว....



พื้นฐานเดิมของฉัน ไม่ใช่คนเรียนเก่ง แต่เอาตัวรอดเก่งเป็นบ้า หึหึ...

สมัยประถมนั้น การบ้านแทบไม่เคยทำส่ง อาศัยแต่ว่าเรียนในห้อง

ไม่รู้ทำอีท่าไหน ได้อยู่ห้องคิงทุกปี



จุดพลิกผันในชีวิต อดีตอันเจ็บปวดถูกเฉลยให้เจ็บปวดยิ่งกว่า

แต่รอบข้างของฉันนั้นเต็มไปด้วยเพื่อนและครอบครัวอันเป็นที่รัก

ในตอนนั้น ฉันตั้งมั่นว่าฉันจะใช้ชีวิตอย่างดีให้สมกับที่พ่อแม่ฝ่าฟันอุปสรรคมา

แม้ว่าจะไม่ค่อยเหมือนคนอื่น แต่ฉันก็จะมีชีวิตอยู่เพื่อพ่อแม่

ฉันขยัน ฉันตั้งใจสอบเข้า ม.1 แม้จะผิดหวังถึง 2 ที่ ฉันก็ยังคงสู้ต่อ

จนกระทั่งสอบติด ลบคำปรามาสได้ในที่สุด



ผ่านไปแค่ 2 ปี ... ฉันลืมความรู้สึกนั้นไปหมดแล้ว ความกดดันทั้งหลายทั้งมวลทำให้ฉันเครียดจนแทบจะบ้า อยากตาย อยากหนีไปให้พ้นๆ ฉันเริ่มไม่เข้าใจว่า...
ทำไม คนอย่างฉันต้องอยู่ตรงนี้
ทำไม คนอย่างฉันต้องทำอะไรแบบที่คนอื่นเขาทำกัน
ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม...
ฉันขวางโลกเกินไป ฉันเครียดเกินไป
อดีต ปัจจุบัน อนาคต ตัวตนของฉันย้อนกลับมาำทำร้ายตัวเองได้อย่างร้ายกาจ

แต่เมื่อเทียบกับที่ผ่านมา...อาจจะดีกว่า เพราะตัวตนของฉัน 'ทำร้าย' คนอื่นมาเยอะเหมือนกัน
ฉันพยายามที่จะเป็นอย่างที่ใครๆต้องการ...แต่ก็ได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น


สุดท้ายแล้วฉันก็คือฉันที่ต้องทรมานที่ทั้งอยากและไม่อยากเป็นตัวของตัวเอง




เวลาที่ผ่านมา ทำให้ฉันคิดได้ ไม่ว่าอย่างไรฉันก็ย้อนกลับเป็น 'อย่างเก่า' ไม่ได้อีก
ราวกับว่า ครอบครัวของฉัน...คงจะลืมตัวตนที่แท้จริงของฉันไปแล้ว
แม้ว่าพวกเขาจะแสดงออกว่าไม่คาดหวัง...แต่ฉันรู้ว่าพวกเขาหวังมาก
ส่วนฉันน่ะหรือ...เลิกหวังอะไรกับตัวเองไปนานแล้ว
จนกระทั่งเฮือกสุดท้าย ที่ว่าชีวิตมันแทบจะไม่มีอะไรให้เสีย ฉันนึกถึงพ่อกับแม่ แล้วฉันก็ต้องสู้ขึ้นมาอีกแม้ว่าในใจนั้นอยากจะตายๆไปให้พ้นๆก็ตาม



ชีวิตที่ถูกปล่อย ยึดเหนี่ยวอยู่กับความจริงที่ใครๆก็อยากจะลืมเพียงอย่างเดียว ฉันเลือกที่จะจำมันไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ ไม่ให้ทำตัวไม่ดี แต่ฉันไม่อยากให้มันมาทำร้ายฉันอีก ฉันอยากใช้ชีวิตเหมือนคนอื่น แต่ก็ทำได้แค่ครึ่งเดียว ฉันไม่พยายาม ไม่จริงจังกับอะไรมานานมากแล้ว


ฉันไม่อยากท้ออีกแล้ว มันนานเกินไปแล้ว ทรมานเกินไปแล้ว แม้เพื่อนๆจะรับรู้แต่คนที่จะช่วยได้ก็มีแต่เพียงตัวฉันเองเท่านั้น ฉันต้องเข้มแข็ง (ไปถึงไหน??)




บอกแล้ว Entry นี้ เพ้อเจ้อ อย่าอ่าน
ได้ระบายอารมณ์บ้างก็ดีเหมือนกัน


แม้ว่ามันจะไม่ได้เสี้ยวนึงเลยก็ตาม...


ปล. ไม่ว่าจะข้ออ้างใดๆ สุดท้ายฉันก็ต้องขยันให้ได้ (หลายคนบอกว่า แกก็พูดงี้ทุกปี ไม่เห็นจะขยันขึ้นเลย...สนิมกินไปแล้วนี่ฝ่า T^T)