27 เมษายน 2553

กระเป๋า ความทรงจำ การลาจาก

ขึ้นหัวเรื่องซะซึ้ง พอดีว่าใกล้จะกลับไทยเต็มแก่แล้ว ก็ต้องเตรียมซื้อของฝาก จัดกระเป๋า บลาๆ แต่พอพูดถึงกระเป๋าเดินทางเนี่ย ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเรื่องเก่าๆบางเรื่อง

กระเป๋าใบหนึ่ง...

เกริ่นก่อน...แม่ของข้าพเจ้าพื้นเพเป็นคน จ.นครศรีธรรมราช สมัยเด็กๆทุกปิดเทอมใหญ่ข้าพเจ้ากับน้องสาวก็จะไปอยู่ยาวที่บ้านของคุณยาย ดูการ์ตูนใน UBC สมัยนั้น (ที่บ้านตูไม่มี = =) ซื้อของกินร้านคุณยายข้างๆ วันดีคืนดีก็แว้บไปเล่นเกมกะน้องเพื่อนข้างบ้าน (แบบว่า...ที่บ้านแม่ไม่ยอมซื้อเกมให้เล่นเลยง่ะ T^T) พอถึงสงกรานต์ก็เล่นน้ำลัลล้า ยิ่งสมัยนั้นสิ้นเดือนเมษาแล้วมันก็ยังสาดกันอยู่เลย สนุกไหมล่ะ

ชีวิตก็เฮฮาปาจิงโกะตามประสา แต่ก็มีหนนึงต้องไปบ้านคุณยายทั้งที่ไม่ใช่ช่วงปิดเทอม...คุณป้าเสีย

จำได้ว่าจัดงานศพที่บ้าน ทั้งซอยยังกะงานวัด มีสายไหมขายด้วย เหอๆ สงสัยคุณป้าจะเป็นคนใหญ่คนโต เอิ๊กๆ

กาลเวลาผ่านไป ข้าพเจ้าโตขึ้น ได้ไปเที่ยวหลายที่มากขึ้น โอกาสกลับนครฯ ก็น้อยลง

อยู่มาวันหนึ่ง คุณยายป่วยต้องผ่านิ่วในกระเพาะปัสสาวะ (คุณยายชอบกินแกงหน่อไม้่ = =) คุณแม่ก็กลับไปเยี่ยม แล้วก็พาคุณยายขึ้นมาด้วยเลย เพราะคุณยายอายุเยอะแล้ว เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับการพูด แล้วก็โรคหัวใจอีก พามาอยู่ใกล้ลูกหลานและใกล้มือหมอหน่อยย่อมจะดีกว่า

พร้อมกระเป๋าใบหนึ่ง...

รู้แค่ว่าเป็นกระเป๋าเดินทางขนาดย่อมของคุณป้า ข้างในคงเก็บเอกสารสำคัญ สีครีมลายสก๊อต แม่เอามาวางไว้ข้างฝาห้อง ติดกับที่นอนของข้าพเจ้า ซึ่งอยู่ข้างเตียงของพ่อกับแม่ ข้าพเจ้าก็นอนหลับอยู่ข้างกระเป๋าใบนั้น บางทีถึงกับเอาหน้าไปแนบชิดเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้นอนข้างทุกวันนะ สลับกับน้องไปนอนกับคุณยายอีกห้องเป็นประจำ

จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณยายป่วยหนัก ต้องเข้าโรงพยาบาลร่วม 20 วัน แม้คืนที่แม่โทรมาบอกที่บ้านว่าคุณยายเสียแล้ว ข้าพเจ้าก็ยังคงนอนข้างกระเป๋าใบนั้น

จวบจนกระทั่งงานศพจบลง จนได้ฤกษ์ลอยอังคาร ครอบครัวและญาติสนิทคนอื่นได้ลงเรือไปยังกลางทะเล แม่ได้นำอัฐิของคุณยายใส่ในห่อผ้าขาวพร้อมบรรดากลีบดอกไม้นานาชนิดเตรียมลอย

แล้วกระเป๋าใบนั้น...มาอยู่บนเรือทำไม ???

คุณแม่เปิดกระเป๋าออกมา ข้างในเป็นห่อผ้าสองห่อ ห่อแรกเป็นอัฐิของคุณป้าที่เสียไปกว่าสิบปีแล้ว ส่วนอีกห่อเป็นอัฐิรวมของตาและทวด(พ่อของตา) ที่อัฐิดันมารวมกันคงเพราะจัดพิีธีศพพร้อมกัน

คุณแม่คงตั้งใจจะเอามาลอยอังคารทีเดียวตั้งแต่แรกสินะ นะ นะ ...

ปล่อยให้ลูกสาวนอนเฝ้าอัฐิบรรพบุรุษมาตั้งสองปี !!!